4 วิธีลดพุง สำหรับสาววัย 20-30-40-50 ปี

4 วิธีลดพุง สำหรับสาววัย 20-30-40-50 ปี ไม่ว่าสาววัยไหนต่างก็หวังจะมีหน้าท้องสวยกระชับ หรืออยาก ลดหน้าท้อง ให้แบนราบ เอวคอดสวย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเราอายุมากขึ้นสรีระของเราก็จะเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อที่เริ่มหย่อนลง หรือมวลกระดูกที่เริ่มลดลง ทำให้หลังงอและดูมีหน้าท้องเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างน้อยหากเรารู้วิธีดูแลที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย ก็สามารถมีหน้าท้องสวย หุ่นเฟิร์ม และดูอ่อนกว่าวัยได้เสมอค่ะซึ่งวิธีที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ นอกจากเอาไปใช้ให้สมกับวัยของเราแล้ว ยังสามารถนำไปใช้เพื่อดูแลคนที่เรารักในช่วงวัยต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ

แนะนำ 4 วิธีลดพุงสำหรับสาววัย 20-30-40-50 ปี

4 วิธีลดพุงสำหรับสาววัย 20-30-40-50 ปีวัย 20 ปี

ร่างกายของสาววัย 20 ยังแข็งแรงและเต็มไปด้วยพลัง สามารถไปปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกับเพื่อนสาวได้ทั้งคืน จะกินจะดื่มอะไรก็เต็มที่ เพราะร่างกายยังสามารถดูดซึมสารอาหารและเผาผลาญพลังงานได้ดีเยี่ยม แม้ไม่ต้องพยายามมากก็สามารถรักษาน้ำหนักได้สบายๆ และยิ่งหากออกกำลังกายคุมน้ำหนักด้วยก็ยิ่งเห็นผลลัพธ์ดีขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าคุณไม่อินกับการเล่นกีฬา ก็ยังมีหน้าท้องแบนราบได้ไม่ยากเพียงแค่ดูแลอาหารการกิน ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำตาลขัดขาว ส่วนแป้งก็สามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยพยายามเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอย่าง โฮลวีท มันเทศ หรือข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ เป็นต้นค่ะ

แนะนำ : พิลาทีสหรือโยคะ ที่ช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง โดยไม่ต้องหักโหมออกกำลังกายหนักเกินไป และยังช่วยให้บุคลิกดีอีกด้วย หรือจะแดนซ์ เข้าฟิตเนส ทำกิจกรรมกลางแจ้งก็ได้ทั้งนั้น เพราะร่างกายพร้อมสุดๆ ค่ะ

วัย 30 ปี

ถึงเวลาต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้นอีกนิด สิ่งที่ต้องใส่ใจมากเป็นอันดับหนึ่งก็คือ ‘อาหาร’ (คลิกอ่าน 10 อาหารช่วยลดน้ำหนัก ที่สาวกลัวอ้วนไม่ควรพลาด) ควรให้แน่ใจว่ามีผักหลากหลาย และโปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น ไก่ ไก่งวง ปลา และคอทเทจชีสไขมันต่ำ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือน้ำตาลขัดขาว เพราะร่างกายจะสะสมน้ำตาลส่วนเกินไว้ในรูปของไขมัน ส่วนที่ควรกำจัดออกไปก็คือขนมขบเคี้ยวที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น หากอยากทานคุกกี้อาจเปลี่ยนเป็นบิสกิสกับผลไม้ เป็นต้น และอาจเสริมด้วยน้ำมันปลา (Fish Oil) และวิตามินรวม (Multi-vitamins) บ้างตามความเหมาะสมค่ะ

แนะนำ : หลายคนที่เคยมีเวลาออกกำลังกายและทำกิจกรรมมากมายในวัย 20 ปี จะเริ่มมีเวลาน้อยลงเพราะมีหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การสร้างฐานะ รวมถึงการดูแลครอบครัว ดังนั้นการทานอาหารแบบเดิมๆ สมัยวัย 20 คงไม่เวิร์คแน่ๆ ค่ะ ดีไม่ดีถึงจะทานน้อยแต่น้ำหนักกลับยังทรงๆ หรือเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไปด้วยอัตราการเผาผลาญพลังงานที่ต่ำลง ดังนั้นทางเดียวที่จะรักษารูปร่างให้ดูดีได้คือ ต้องเริ่มทานอาหารสุขภาพ และออกกำลังกายค่ะ ซึ่งหากไม่มีเวลาไปยิม ก็สามารถออกกำลังกายอยู่บ้านหน้าทีวีได้เช่นกัน หรือคลิกอ่าน รวมท่าออกกำลังกายสุดฟิต เฟิร์มแน่ แม้อยู่บ้าน รับรองว่าฟิตแอนด์เฟิร์มทุกส่วนเลยล่ะค่ะ

วัย 40 ปี

เมื่อย่างเข้าหลักสี่ ร่างกายจะเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ออกกำลังเป็นประจำ ยิ่งกล้ามเนื้อน้อยลงแค่ไหน ร่างกายก็เผาผลาญพลังงานน้อยลงเท่านั้น ทำให้ร่างกายสะสมไขมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงวัย 40+ ควรใส่ใจกับอาหารการกินและการออกกำลังกายเป็นพิเศษแบบขาดไม่ได้ค่ะ (คลิกอ่าน 10 อาหารเย็น ไม่เกิน 150 แคลฯ)

แนะนำ : โยคะและพิลาทีสเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะสามารถผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงเข้าด้วยกัน และยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเผาผลาญไขมันจอมดื้อได้อีกด้วยค่ะ แนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้หญิงที่มีลูกแล้วและมีปัญหาหน้าท้อง เพราะพิลาทีสจะช่วยกระชับให้หน้าท้องสวยได้รูปขึ้นมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงวัยนี้ต้องดูแลก็คือระบบย่อยค่ะ ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา ควบคู่ไปกับการทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยมาก หรือทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทไฟเบอร์และดื่มน้ำให้เพียงพอ ก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ

วัย 50 ปี

หากดูแลสุขภาพในช่วงนี้ให้ดี ก็จะส่งผลดีเมื่อคุณอายุ 60, 70 หรือมากกว่าด้วยเช่นกันค่ะ ดังนั้นต้องดูแลอาหารการกินให้มีผักหลากหลาย หลีกเลี่ยงเนื้อแดงที่ย่อยยาก แล้วหันมาทานโปรตีนที่ย่อยง่ายๆ อย่างเนื้อปลาแทน รวมถึงทานอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน และอาหารที่ดีต่อหัวใจค่ะ

แนะนำ : การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน เช่น ยกเวท พิลาทีส หรือโยคะท่าที่เหมาะสมในการสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและทำให้ร่างกายได้หลั่ง ‘ฮอร์โมนความสุข’ ที่ชื่อ เซโรโทนิน ออกมา ซึ่งการออกกำลังแบบนี้ไม่ใช่ทำให้หุ่นดี หน้าท้องแบนเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยปกป้องหัวเข่า หลัง และสะโพกให้แข็งแรงอีกด้วยค่ะ

ท่าโยคะลดพุง

สำหรับใครที่เพิ่งหันมาออกกำลังกาย เราขอแนะนำสาวๆ ให้เริ่มด้วยการออกกำลังกายง่ายๆ อย่าง โยคะ เลยค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยลดส่วนเกินได้เหมือนกันแล้ว ยังไม่เหนื่อยมากอีกด้วยนะ!ซึ่งใครที่กำลังมองหาท่าง่ายๆ ที่ช่วยลดหน้าท้องอยู่ล่ะก็มีมาฝากถึง 10 ท่าด้วยกัน! แต่ละท่าก็เป็นสเต็ปง่ายๆ ที่สาวไม่เคยเรียนดยคะมาก่อนก็สามารถทำได้ค่ะ โดยท่าทั้งหมดนี้จะเน้นการเกร็งหน้าท้อง การบริหารเอวและหลัง ซึ่งทำท่าทั้งหมดนี้ไม่เพียงช่วยให้หน้าท้องแบนราบ แต่ยังช่วยดีท็อกลำไส้ได้อีกด้วยล่ะค่า

ท่าที่ 1

ยืนตรง แขนทั้งสองเหยียดขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นย่อเข่าลง ลำตัวโน้มไปด้านหน้าเล็กน้อย ค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก ทำซ้ำ 5 ครั้ง

ท่าที่ 2

นั่ง พนมมือไว้บริเวณหน้าอก ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกันเป็นตัว V จากนั้นยกขาทั้งสองข้างขึ้น เอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยให้ลำตัวเป็นรูปตัว V ค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก ทำซ้ำ 5 ครั้ง

ท่าที่ 3

นอนคว่ำ วางฝ่ามือทั้งสองข้างแนบพื้น แขนเหยียดตรง ดันลำตัวและขาขึ้นจากพื้น ค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก ทำซ้ำ 5 ครั้ง

ท่าที่ 4

นั่งหลังตรง ขาทั้งสองข้างเหยียดไปด้านหน้า มือทั้งสองข้างวางไว้ด้านหลัง ให้มืออยู่ใต้ก้น ตั้งศอกลงกับพื้น ลำตัวเอนไปด้านหลัง แอ่นหน้าอกขึ้น ค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก ทำซ้ำ 5 ครั้ง

ท่าที่ 5

นอนคว่ำ ยกลำตัวด้านบนและขาขึ้นจากพื้น โดยใช้มือทั้งสองข้างจับข้อเท้าไว้ ค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก ทำซ้ำ 5 ครั้ง

บทความแนะนำ

วิธีลดน้ำหนักด้วยฮูลาฮูป

5 วิธีลดพุง สำหรับพุง 5 แบบ